รายการโหนกระแสวันนี้ (6 พ.ค. 68) เชิญแม่และเด็กหนุ่มวัย 16 ปี มาเล่าประสบการณ์ ถูกหมอดูหลอกลวงสูญเงินกว่า 5 แสนบาท พร้อมเผชิญหน้าอาจารย์เสรี หมอดูที่ถูกกล่าวหาในรายการ

โดยคุณแม่พาลูกชายวัย 16 ปี นักเรียนมัธยมโรงเรียนดังในกรุงเทพฯ ร้องเรียนทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ หลังถูกหมอดูหลอกให้ทำพิธีพิสดารนาน 3 ปี สูญเงินครึ่งล้าน และมีอาการเครียดหนักจากถูกแฟนบอกเลิก ลูกชายเล่าว่า รู้จักหมอดูผ่านเพื่อนตอน ม.2 เริ่มจากดูดวง 5,000 บาท ทำพิธี “เปิดรับพ่อปู่” และ “สร้างพระ” หมอดูทักเรื่องความรักแม่นจนหลงเชื่อ ต่อมาถูกชักจูงทำพิธีแปลกๆ เช่น ถอดเสื้อผ้าแปะทองที่อวัยวะเพศ อ้าง “เสริมของ” แต่ชีวิตยิ่งแย่ ถูกชี้นำให้เลิกคบแฟนและคนรอบตัว รวมถึงทำหุ่นเผาแก้ดวง ซึ่งไม่ช่วยอะไร แถมปู่ที่ป่วยมะเร็งเสียชีวิตใน 1 ปี หมอดูยังชวนลงทุนร้านค้าแต่ขาดทุนยับ ต้องจำนำโทรศัพท์และขายคอมพิวเตอร์เพื่อจ่ายค่าพิธี

แม่พบความจริงหลังลูกซึมเศร้า เก็บตัว ร้องไห้กลางดึก พบว่าถูกครอบงำด้วยความกลัวและศรัทธา แถมไปสักยันต์น้ำมันโดยไม่บอกพ่อแม่ ทนายรณณรงค์ระบุ กรณีนี้เข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน กระทำอนาจารเด็ก และละเมิด พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก

โดยในรายการวันนี้ นายบอย หนุ่มวัย 16 ปี และเพื่อนสนิทที่พาไปดูดวง คือ นายบี เอาของขลังต่างๆ ที่อาจารย์เสรีบอกให้เสียเงินบูชา ทั้ง กระบอกเล็ก ที่เอาไว้สู้กับพญานาค ในราคา 2500 บาท ที่อาจารย์บอกว่าไปบูชามาจากย่าน วัดราชนัดดารามวรวิหาร ราคาประมาณ 200-300 บาท แต่พอเอาให้ อ.รักษ์ ศรีเกตุ ดูแล้ว อ.รักษ์บอกว่า พลาสติกชัดๆ แล้วย่านที่บอกว่าไปซื้อมา มันก็เป็นย่านรวมของก็อปอยู่แล้ว

ที่พีกก็คือ หอยสังข์ ที่นายบอยบอกว่า อาจารย์เสรีให้บูชาไว้ ราคา 3500 บาท เอาไว้ปัดเป่าศัตรู เปลี่ยนจากศัตรูเป็นมิตร แต่พอส่งให้ อ.รักษ์ ศรีเกตุ ตรวจสอบ อ.รักษ์ บอกว่า ตามทะเลเขามีขายเยอะ ของพวกนี้ก็คือที่ระลึกเวลาเราไปเที่ยวทะเลแล้วซื้อกลับมานั่นล่ะ

ขณะที่ แม่ของลูกชาย กล่าวว่า ตนทราบเรื่องหลังลูกถูกแฟนบอกเลิกและมีพฤติกรรมซึมเศร้า เก็บตัวอยู่ในห้อง ไม่กินข้าว ร้องไห้กลางดึก ลงสตอรี่เป็นกองยา มีเนื้อหากล่าวโทษตัวเองจนรู้สึกเป็นห่วงอย่างมาก หลังสอบถามจึงค่อยๆ รู้ความจริงโดยแฟนของลูกเป็นคนช่วยเล่าอย่างละเอียด ว่าลูกโดนหลอกมานาน เขาใช้ความกลัว ความศรัทธามาหลอก ลูกตน จนหลงเชื่อทุกอย่าง ตั้งแต่พิธี จุดธูป เผาหุ่น ยันยอมเสียเงินทำของทุกอย่างที่หมอดูบอก พอรู้ความจริงตนตกใจมาก พาไปหาหมอ พยายามดูแลจิตใจไม่ให้ลูกคิดสั้น พี่ชายแนะนำให้มาปรึกษาทนายรณณรงค์ เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ลูกตนแต่มันเป็นปัญหาของสังคม

แม่ยังบอกอีกว่า “เขาเคยเป็นเด็กดี มีวินัย เก็บออม แต่พอมารู้จักคุณ เขาไม่เหลือสักอย่าง เขาต้องมาเป็นซึมเศร้า เขาอยากจะจบชีวิตตัวเอง แม่ต้องพาเขาไปหาหมอจิตเวช  คุณเห็นปัญหาของเด็กคนหนึ่งไหมคะ ชีวิตเขาพังหมดเลยเนี่ย”

ขณะที่ อ.รักษ์ ศรีเกตุ ก็ช่วยพูดว่า สิ่งที่อาจารย์ทำ มันคือการหลอกลวงหรือเปล่า สิ่งที่อ้างว่าทำไปแล้ว บูชาไปแล้ว จะดีอย่างนั้นอย่างนี้ มันดีจริงไหม มีอะไรสำเร็จบ้าง คุณใจดำมากนะที่ทำกับเด็กคนหนึ่งแบบนี้ แล้วถ้าถามหาความรับผิดชอบ จะรับผิดชอบเงินให้เขาไหวหรือ ที่อ้างว่าไปทำให้ชีวิตเขาดี ก็ไม่จริงอีก

เมื่อถามอาจารย์เสรีว่า จะรับผิดชอบอะไรอย่างไร อาจารย์เสรีตอบว่า “ถามว่า จะให้ผมรับผิดชอบยังไง ไม่พูดอะไรแล้ว ตรงจุดนี้ ถามว่าจะให้ผมรับผิดชอบยังไง ก็ถือว่า ผมผิดเองที่ยื่นมือเข้ามาช่วยคุณ ตรงจุดนี้ ถามว่า เข้ามาช่วย ทำไมต้องมีเรื่องเงินมาเกี่ยวข้อง ตรงจุดนี้ ก็เนี่ยไง ก็เคยบอกกันแล้วไงว่า เราต้องเชื่อตัวเราเอง”

ท้ายที่สุดอาจารย์เสรียอมรับว่าตนไปหลอกลวง เอาเงินจากเด็กหนุ่มจริง แต่ยืนยันว่าในเรื่องการล่วงละเมิดไม่ได้ทำอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตามทนายรณณรงค์ ยืนยันว่า พฤติกรรมที่หลอกลวงให้เด็กขึ้นไปบนอะพาร์ตเมนต์สองต่อสอง โดยที่ผู้ปกครองไม่ยินยอม ยังไงก็ถือว่าเป็นการพรากผู้เยาว์อยู่แล้ว ยิ่งตอนนั้นน้องยังอายุไม่ถึง 15 ปี องค์ประกอบความผิดครบถ้วน อาจารย์อาจจะยังไม่เข้าใจ แต่เดี๋ยวได้หมายจากตำรวจรับรองว่าจะเข้าใจแน่นอน