“ชำแหละเอเลี่ยน” โรสเวลล์ กลับมาเป็นกระแสร้อนอีกครั้ง หลังสหรัฐฯ จ่อเปิดเอกสารลับ UFO

หนึ่งในเหตุการณ์ลึกลับที่โด่งดังที่สุดของโลกอย่าง “เหตุการณ์ยูเอฟโอโรสเวลล์” (Roswell UFO Incident) กลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง หลังสภาคองเกรสสหรัฐฯ ได้รับคำสั่งให้เริ่มดำเนินการเปิดเผยเอกสารลับทั้งหมดเกี่ยวกับยูเอฟโอ ตามคำผลักดันของรัฐบาลภายใต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

“ชำแหละเอเลี่ยน” ที่เคยเขย่าโลกเมื่อ 30 ปีก่อน

ในช่วงปี 1995 รายการโทรทัศน์ของสหรัฐฯ อย่าง Fox Network ได้เผยแพร่คลิปขาวดำยาว 18 นาที ภายใต้ชื่อ Alien Autopsy: Fact or Fiction ซึ่งอ้างว่าเป็นภาพการชำแหละร่างของมนุษย์ต่างดาวที่เสียชีวิตจากเหตุยูเอฟโอตกในโรสเวลล์เมื่อปี 1947

ในคลิปดังกล่าวมีชาย 3 คนสวมชุดป้องกัน กำลังทำการผ่าชันสูตรร่างสิ่งมีชีวิตลักษณะคล้ายมนุษย์ หัวโต ตาดำ ซึ่งสร้างความตกตะลึงให้คนทั่วโลก หลายคนเชื่อว่านี่คือหลักฐานชิ้นสำคัญที่แสดงถึงการมีอยู่ของสิ่งมีชีวิตนอกโลก และเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นควบคู่กับกระแสซีรีส์ The X-Files ที่โด่งดังในยุคนั้น

เฉลยคลิปช็อกโลก กับเบื้องหลังโปรเจกต์ลวงโลก!

รายงานจาก  เผยว่า เรย์ ซานทิลลี (Ray Santilli) โปรดิวเซอร์ชาวอังกฤษ ผู้เผยแพร่คลิป ได้เคยอ้างว่าภาพทั้งหมดได้มาจากอดีตช่างภาพของกองทัพสหรัฐฯ แต่เนื่องจากคุณภาพวิดีโอต้นฉบับแย่มาก จึงต้องทำการ “ถ่ายทำใหม่” เพื่อจำลองเหตุการณ์

กระทั่งในปี 2006 เขาและเพื่อนร่วมงาน แกรี ชูฟิลด์ (Gary Shoefield) ยอมรับในที่สุดว่า คลิปทั้งหมดเป็นการจัดฉากที่ถ่ายทำในอพาร์ตเมนต์ที่ลอนดอน โดยใช้อุปกรณ์ประกอบฉากและหุ่นจำลองมนุษย์ต่างดาวที่เตรียมไว้อย่างแนบเนียน

ฟิลิป แมนเทิล (Philip Mantle) นักวิจัย UFO ชาวอังกฤษเปิดเผยว่า ตัวการผู้อยู่เบื้องหลังจริงๆ คือ สไปรอส เมลารีส (Spyros Melaris) ผู้กำกับภาพยนตร์ที่เขียนสตอรี่บอร์ด วางแผนสร้างฉากครบถ้วน ทั้งยานบินจำลอง แผงควบคุมพร้อมสัญลักษณ์ลึกลับ ไปจนถึง “อวัยวะภายในมนุษย์ต่างดาว” ที่ทำจากอวัยวะสัตว์จริง

เมื่อเรื่องลวงกลายเป็นตำนานที่ไม่จบสิ้น

แม้ความจริงจะถูกเปิดเผยแล้วว่าเป็นเรื่องหลอกลวง แต่แนวคิดเรื่อง “ศพเอเลี่ยน” ยังคงปรากฏซ้ำอีกครั้งในหลายประเทศ ตัวอย่างล่าสุดคือที่เปรู ซึ่งมีรายงานว่าพบมัมมี่ปริศนาที่มีนิ้วมือและนิ้วเท้าเพียง 3 นิ้ว กลายเป็นกระแสใหม่ในหมู่ผู้เชื่อทฤษฎีสมคบคิด

ด้านแมนเทิลกล่าวอย่างผิดหวังว่า “คนจำนวนมากดูเหมือนจะไม่เคยเรียนรู้อะไรจากเรื่องที่ผ่านมาเลย”

คำอธิบายทางการ: ไม่ใช่ยูเอฟโอ แต่เป็นบอลลูนลับ

ในปี 1997 กองทัพอากาศสหรัฐฯ ได้ออกมาชี้แจงว่าเหตุการณ์ยูเอฟโอที่โรสเวลล์เมื่อปี 1947 นั้น เป็นเพียงการเข้าใจผิด โดยซากที่พบคือส่วนหนึ่งของ “โครงการโมกูล” (Project Mogul) ซึ่งเป็นโครงการบอลลูนลับสำหรับตรวจจับคลื่นเสียงจากการทดสอบนิวเคลียร์ของโซเวียต ไม่ใช่ยานอวกาศจากต่างดาว

ส่วน “ศพมนุษย์ต่างดาว” ที่ถูกอ้างในคลิปนั้น ก็เป็นเพียงหุ่นจำลองหรือหุ่นทดลองร่มชูชีพของกองทัพเท่านั้น

แต่ทำไมหลายคนยังไม่เชื่อ? แม้จะมีคำอธิบายอย่างเป็นทางการ แต่หลายฝ่ายยังคงไม่ปักใจเชื่อ โดย ดร. ฮาล พุธฮอฟ (Hal Puthoff) นักฟิสิกส์ผู้ร่วมโครงการศึกษายูเอฟโอของรัฐบาลสหรัฐฯ เผยว่า กองทัพอาจเคยกู้ซากยานต่างดาวได้มากถึง 10 ลำ ขณะที่ ดร. เอริก เดวิส (Eric Davis) ก็อ้างว่ามีเจ้าหน้าที่ระดับสูงในกองทัพที่เคยยืนยันเรื่องยูเอฟโอตกในโรสเวลล์จริง

สหรัฐฯ เตรียมเปิดข้อมูลยูเอฟโอทั้งหมด

เนื่องจากกระแสเรียกร้องจากสาธารณชนยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดรัฐบาลสหรัฐฯ ได้มอบหมายให้ สมาชิกสภาคองเกรส แอนนา พอลินา ลูน่า (Anna Paulina Luna) ทำหน้าที่ตรวจสอบและรวบรวมข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับยูเอฟโอในอดีต

ความเคลื่อนไหวนี้ ทำให้ประเด็นเรื่อง “สิ่งมีชีวิตนอกโลก” กลับมาเป็นที่สนใจในสังคมอเมริกันอีกครั้ง พร้อมกับคำถามสำคัญที่ยังไร้คำตอบว่า… “ความจริงคืออะไรกันแน่?”