ขยายเวลาอีก! ศาลรธน.มีมติ 5 ต่อ 4 ให้อุ๊งอิ๊งค์ยื่นคำชี้แจง ปมคลิปเสียง ภายใน 4 ส.ค นี้

ขยายเวลาอีก! ศาลรธน.มีมติ 5 ต่อ 4 ให้อุ๊งอิ๊งค์ยื่นคำชี้แจง ปมคลิปเสียง ภายใน 4 ส.ค นี้

วันที่ 30 ก.ค.68 จากกรณีประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องของสมาชิกวุฒิสภา 36 คน เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรค 1 (4) ประกอบมาตรา 160 (4)และ (5) หรือไม่นั้น

ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้องขอขยายระยะเวลา ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาครั้งที่ 2 น.ส.แพทองธาร ฉบับลงวันที่ 29 ก.ค.2568 ซึ่งขอขยายระยะเวลาออกไปอีก 15 วัน นับจากวันครบกำหนดเดิม เนื่องจากอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อใช้เรียบเรียงทำคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาซึ่งยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์

โดยศาลเห็นว่า เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม จึงมีมติเสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 มีคำสั่งอนุญาตให้ขยายระยะเวลายื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาออกไปจนถึงวันที่ 4 ส.ค. 2568 เป็นครั้งสุดท้าย หากไม่ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายในกำหนดระยะเวลาดังกล่าว ให้ถือว่าไม่ติดใจที่จะยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา และศาลรัฐธรรมนูญจะดำเนินกระบวนการพิจารณาต่อไป

ขณะที่ตุลาการเสียงข้างน้อยที่เห็นไม่ควรอนุญาตให้ขยายระยะเวลายื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ประกอบด้วย นายปัญญา อุดชาชน,นายวิรุฬห์ แสงเทียน, นายจิรนิติ หะวานนท์ และนายบรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์

สำหรับคำร้องของสมาชิกวุฒิสภาระบุว่า ปรากฏคลิปเสียงสนทนาระหว่างน.ส.แพทองธาร กับสมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.2568 แม้ต่อมา น.ส.แพทองธาร แถลงข่าวเป็นการพูดคุยทางโทรศัพท์แบบส่วนตัวโดยมีเจตนาที่จะเจรจาต่อรองอย่างนุ่มนวลเพื่อรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขและอธิปไตยของไทยก็ตาม

แต่สมาชิกวุฒิสภา ผู้เข้าชื่อเสนอคำร้องเห็นว่า น.ส.แพทองธาร แสดงออกถึงความนิ่งเฉยและไม่ปฏิบัติหน้าที่โต้ตอบหรือกำหนดมาตรการรวมถึงการเจรจาระหว่างประเทศด้วยตนเองให้เป็นที่ประจักษ์ตามหน้าที่ความรับผิดชอบที่บุคคลผู้อยู่ในสภาวะ วิสัยและพฤติการณ์แห่งความเป็นนายกรัฐมนตรีพึงกระทำ เพราะเหตุแห่งความสัมพันธ์ส่วนตัวในลักษณะเป็นฝั่งเดียวกันกับกัมพูชา พร้อมที่จะทำตามหรือจัดการตามที่ฝ่ายกัมพูชาต้องการมาโดยตลอด

ส่วนแม่ทัพภาคที่ 2 น.ส.แพทองธาร เห็นว่าเป็นฝ่ายตรงกันข้าม ผู้ถูกร้องไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์และฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธารสิ้นสุดลงเฉพาะตัวและขอให้ศาลมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ไว้ก่อนจนกว่ารัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Proudly powered by WordPress | Theme: Funky Blog by Crimson Themes.