ทำความ รู้จัก ทหารพราน วีรบุรุษด่าน หน้าผู้รักษาอธิปไตย
เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งนักรบที่ร่วมสู้การปะทะไทย-กัมพูชา ในครั้งนี้ สำหรับ ทหารพราน หรือ ทพ. จัดตั้งขึ้นตาม “โครงการ 513” เป็นแนวคิดของ พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ที่กองบัญชาการกองทัพไทยในขณะนั้น เนื่องจากสถานการณ์ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา
ได้ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น ขณะที่กำลังทหารประจำการส่วนใหญ่ ต้องอยู่ประจำพื้นที่ ไม่อาจถอนกำลังออกมาปกป้องจากการรุกรานจากภายนอกได้ “หน่วยทหารพราน”
จึงถูกจัดตั้งขึ้นตามแนวคิด “ทหารพรานคืออาสาของประชาชน” หรือ “นักรบประชาชน”หน่วยทหารพราน เดิมจัดตั้งในลักษณะเป็นโครงการ เรียกว่า “โครงการอาสาสมัครทหารพราน”
จากการวิเคราะห์พบว่าประสิทธิภาพในการต่อสู้เพื่อเอาชนะคอมมิวนิสต์ของฝ่ายทหารไทยในขณะนั้น ยังมีปัญหาบางอย่างไม่ตรงกับปัจจัยพื้นฐาน
ในการต่อสู้เพื่อเอาชนะคอมมิวนิสต์ สิ่งที่มีความสำคัญที่สุดก็คือ กำลังทหารประจำการส่วนใหญ่ได้ถูกทุ่มเทเข้าไปในพื้นที่และต้องอยู่ประจำพื้นที่
จึงเป็นปัญหาแก่กองทัพบกเป็นอย่างมากเหตุผลประการสำคัญอีกข้อหนึ่ง คือ ปัญหาเงื่อนไขในแต่ละพื้นที่ ซึ่งบุคคลภายนอกยังไม่สามารถเข้าใจได้อย่างลึกซึ้ง
จึงเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติการทางทหารเป็นอย่างมาก กองทัพบก ได้พิจารณาเห็นว่าควรมีการจัดตั้งกำลังทหารในลักษณะเป็นหน่วยอาสาสมัครพิเศษขึ้นเพื่อแก้ปัญหา
โดยนำกำลังพลจากท้องถิ่นนั้นๆ มาแก้ข้อบกพร่องนี้ ดังนั้นโครงการหน่วยรบนอกบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ของกองทัพบกจึงถือกำเนิดขึ้น
โดยได้รับอนุมัติหลักการจากที่ประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพให้ดำเนินการ เรียกว่า “โครงการชุดปฏิบัติการพิเศษทหารพรานชายแดนไทย-กัมพูชา”
เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2521 โครงการดังกล่าวนี้ ได้รับอนุมัติอย่างเป็นทางการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2521 กองทัพบก จึงถือเอา วันที่ 18 กรกฎาคม ของทุกปี
เป็นวันคล้ายวันสถาปนาหน่วยทหารพราน จากการที่ได้จัดตั้งและให้หน่วยทหารพรานปฏิบัติการปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์มาตั้งแต่ปี 2521
ผลปรากฏว่า หน่วยทหารพราน ได้มีส่วนสำคัญในการระงับยับยั้งการขยายอิทธิพลของผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ และสามารถยุติสงครามปฏิวัติได้
ส่งผลให้การต่อสู้ด้วยอาวุธลดระดับลงจนเป็นที่น่าพอใจ กองทัพบก จึงมอบหมายให้หน่วยทหารพรานทำการป้องกันประเทศตามแนวชายแดนร่วมกับหน่วยทหารประจำการ
ซึ่งปรากฏว่าหน่วยทหารพรานสามารถ ปฏิบัติภารกิจนี้ได้เป็นอย่างดี ประกอบกับกองทัพบกพิจารณาเห็นว่าหน่วยทหารพรานเป็นหน่วยที่สามารถจัดตั้งได้โดยใช้งบประมาณน้อยมาก
ทั้งยังเป็นหน่วยปฏิบัติในพื้นที่ปฏิบัติการได้อย่างคล่องแคล่ว กองทัพบก จึงได้พิจารณาจัดตั้งหน่วยทหารพรานขึ้นในลักษณะเช่นเดียวกับหน่วยทหารทั่วๆ ไป โดยมีอัตราการจัดของหน่วยทหารพรานที่แน่นอนเมื่อปี 2526
-สมญานาม
นักรบชุดดำ, สุภาพบุรุษชุดดำ, ดอกไม้เหล็ก (ทหารพรานหญิง)
หน่วยทหารพรานในปัจจุบัน
ทหารพรานมีกรมทหารพรานทั้งหมด 22 กรม 276 กองร้อย มีหมวดทหารพรานหญิงทั้งหมด 12 หมวด ประกอบด้วย
– กองทัพภาคที่ 1 : 4 กรมทหารพราน (36 กองร้อย) และ 2 หมวดทหารพรานหญิง (9 หมู่)
– กองทัพภาคที่ 2 : 4 กรมทหารพราน (46 กองร้อย) และ 2 หมวดทหารพรานหญิง (8 หมู่)
– กองทัพภาคที่ 3 : 5 กรมทหารพราน (50 กองร้อย) และ 2 หมวดทหารพรานหญิง (9 หมู่)
– กองทัพภาคที่ 4 : 9 กรมทหารพราน (144 กองร้อย) และ 6 หมวดทหารพรานหญิง (45 หมู่)
ปัจจุบัน กองทัพบกจัดกำลังทหารพราน สนับสนุนภารกิจป้องกันชายแดนในเขตรับผิดชอบของ กองทัพภาคที่ 1 และ 3 รวม 10 กรมทหารพราน
และ 3 หมวดทหารพรานหญิง และสนับสนุนภารกิจการรักษา ความมั่นคงภายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้รวม 12 กรมทหารพราน และ 9 หมวดทหารพรานหญิง