บีบหัวใจ ด.ช.เล่านาทีสุดท้าย “พ่อใส่ชูชีพให้” ก่อนจมหายตามแม่-น้อง โศกนาฏกรรมเรือล่ม
เหตุเรือล่มในอ่าวฮาลอง เด็กชาย 10 ปีรอดชีวิตปาฏิหาริย์ หลังติดในห้องโถงเรือล่มนาน 4 ชม.
คืนวันที่ 19 กรกฎาคม 2025 เรือท่องเที่ยว “QN‑7105” (หรือที่รู้จักในชื่อ Wonder Sea) แล่นออกจากจุดชมวิว ตรงพิธโทป์และถ้ำ Sửng Sốt ขณะที่พายุฝนฟ้าคะนองพัดเข้าปกคลุมอ่าว ทำให้เรือพลิกคว่ำ ผู้โดยสาร 48 คนและลูกเรือ 5 คนติดอยู่ภายในเรือโคลงเคลง ก่อนนำไปสู่ความสูญเสียกว่า 35 ศพ กลายเป็นเหตุการณ์โศกนาฏกรรมเรือใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในรอบหลายปี
ท่ามกลางความสลด ความหวัง หนึ่งในเหตุการณ์ที่สร้างความสะเทือนใจคือ ความเสียสละของพ่อคนหนึ่งที่ช่วยลูกชายจนรอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหาริย์ หลังติดอยู่ในห้องโดยสารที่จมอยู่ใต้น้ำเป็นเวลานานถึง 4 ชั่วโมง กระทั่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ทุบกระจกหน้าต่างเข้าไปช่วยและพาตัวขึ้นฝั่งอย่างปลอดภัย
เมื่อตอนที่กู้ตัวออกมาจากภายในเรือ เด็กชายมีอาการหวาดกลัว เขาเล่าว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นรวดเร็ว และพ่อของเขาได้สวมเสื้อชูชีพให้ลูกและดันลูกขึ้นเรือก่อนที่ตัวเองจะหายไป ซึ่งเป็นช่วงเวลาแห่งความเสียสละที่ตรึงใจผู้พบเห็น
น่าเศร้ายิ่ง เมื่อล่าสุดพบร่างของแม่และน้องสาววัย 3 ขวบของเด็กชายแล้ว ขณะที่พ่อซึ่งเป็นผู้ช่วยชีวิตลูกไว้ ยังคงสูญหาย แม้เจ้าหน้าที่จะกู้เรือขึ้นจากทะเลได้แล้วในช่วงตีสองของวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา
ขณะที่เจ้าหน้าที่ระบุว่า เด็กชายคนดังกล่าวมีชีวิตรอดได้เนื่องจากยังมีช่องอากาศในห้องโดยสารที่มีความกว้างประมาณ 50–60 เซนติเมตร ทำให้ออกซิเจนสามารถผ่านเข้าไปได้จนเจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือเขาออกมาได้อย่างปลอดภัย เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือโดยการทุบหน้าต่างและนำขึ้นเรือชูชีพ
“แม้ว่าเรือจะล่มและห้องโดยสารถูกล็อกแน่น แต่ยังมีช่องอากาศขนาดประมาณ 50–60 เซนติเมตร ทำให้ออกซิเจนเข้าไปได้ เด็กชายจึงสามารถรอดชีวิต” นายบุ่ย กง ฮวาน รองประธานชมรมเรือท่องเที่ยวอ่าวฮาลอง ให้สัมภาษณ์กับ VnExpress
ข้อมูลจากตำรวจจังหวัดกว๋างนิงระบุว่า เรือที่เกิดเหตุชื่อ “Vịnh Xanh 58” ออกจากท่าเรือท่องเที่ยวนานาชาติฮาลอง เพื่อท่องเที่ยวตาม “เส้นทางหมายเลข 2” มีผู้โดยสารบนเรือรวม 51 คน แบ่งเป็นผู้โดยสาร 48 คน (41 ผู้ใหญ่ 7 เด็ก ทั้งหมดเป็นชาวเวียดนาม) และลูกเรือ 3 คน
เมื่อเรือกำลังเดินทางกลับมายังท่าเรือ ก็พบกับพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกรุนแรงบริเวณระหว่างเกาะ Gà Chọi (ไก่จิก) และเกาะ Cô Đơn (เกาะโดดเดี่ยว) ทำให้เรือล่มในทันที โดยสัญญาณ GPS ขาดหายไปเมื่อเวลา 14:05 น. หลังได้รับรายงานเหตุการณ์ ตำรวจจังหวัดได้สั่งการให้หน่วยดับเพลิง กู้ภัย และตำรวจจราจรเร่งรุดเข้าพื้นที่เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบเหตุทันที
เหตุการณ์เรือล่มครั้งนี้นับเป็นโศกนาฏกรรมทางทะเลที่รุนแรงที่สุดในอ่าวฮาลองในรอบหลายปี และได้จุดประเด็นวิพากษ์ถึงมาตรการความปลอดภัยของเรือนำเที่ยวภายในเวียดนาม
ข้อมูลเกี่ยวกับเรือ Vịnh Xanh 58
เรือท่องเที่ยว Vịnh Xanh 58 หมายเลขทะเบียน QN-7105 เป็นเรือโดยสารขนาดกลางที่ให้บริการนักท่องเที่ยวภายในอ่าวฮาลอง จังหวัดกว๋างนิง ประเทศเวียดนาม โดยเรือลำนี้ให้บริการในเส้นทางการท่องเที่ยว “สายที่ 2” ซึ่งครอบคลุมจุดท่องเที่ยวยอดนิยม เช่น เกาะ Gà Chọi, ถ้ำ Sửng Sốt, ถ้ำ Luồn และเกาะ Ti Tốp
เรือมีความยาวประมาณ 24 เมตร น้ำหนักราว 12 ตัน ได้รับใบรับรองความปลอดภัยด้านเทคนิคและสิ่งแวดล้อมหมายเลข 01404/24S14 จากสำนักงานขนส่งทางน้ำจังหวัดกว๋างนิง ออกเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2025 และมีอายุการใช้งานจนถึงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2026
เจ้าของเรือและกัปตันคือ นาย Đoàn Văn Trình ชาวจังหวัดกว๋างนิง ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการเรือและอยู่ประจำในวันเกิดเหตุด้วย
เรือลำนี้ได้รับอนุญาตให้บรรทุกผู้โดยสารสูงสุด 48 คน โดยมีการทำประกันภัยไว้ตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน 2025 ครอบคลุมความเสียหายต่อผู้โดยสารกรณีเสียชีวิตหรือบาดเจ็บสูงสุด 30 ล้านด่งต่อคน (ประมาณ 45,000 บาท)
ในขณะเกิดเหตุเรือบรรทุกประมาณ 51–53 คน หากนับเพียงเฉพาะ “ผู้โดยสาร” ที่ 48 คน ก็เท่ากับ “พอดีกับจำนวนที่อนุญาต” แต่ถ้ารวม “ลูกเรือ” ด้วย (ซึ่งควรนับในภาระโหลดโดยรวมของเรือ) ก็เกินความปลอดภัยโดยนัย ถึงแม้จะ ไม่เกินผู้โดยสารตามใบอนุญาตโดยตรง แต่เมื่อรวมลูกเรือและสัมภาระในสภาพอากาศเลวร้าย ก็อาจถือว่าลำเรือแบกรับน้ำหนักเกินกำหนดด้านความปลอดภัย
ขณะนี้ทางการเวียดนามกำลังสืบสวนว่า มีการละเมิดมาตรการความปลอดภัยใดหรือไม่, เรือมีเสื้อชูชีพเพียงพอหรือไม่, มีการแจ้งเตือนพายุและมีคำสั่งห้ามออกเรือหรือเปล่า