พิษรักเบื้องหลัง “รูปถ่ายที่น่ากลัวที่สุด” เปิดคดีโศกนาฏกรรม เกิดอะไรขึ้นกับหญิงบนเตียง?

พิษรักเบื้องหลัง “รูปถ่ายที่น่ากลัวที่สุด” เปิดคดีโศกนาฏกรรม เกิดอะไรขึ้นกับหญิงบนเตียง?

พิษรักเบื้องหลัง "รูปถ่ายที่น่ากลัวที่สุด" เปิดคดีโศกนาฏกรรม เกิดอะไรขึ้นกับหญิงบนเตียง?

เปิดคดีสุดสยอง! หญิงสาวถูกขังในห้องมืด 25 ปี เพราะรักชายต่างฐานะ เรื่องจริงเบื้องหลัง “ภาพถ่ายที่น่ากลัวที่สุดในประวัติศาสตร์”  คือการลงโทษสุดทารุณจากครอบครัวตัวเอง

เรื่องราวสุดสะเทือนใจของ บลานช์ โมเนียร์ (Blanche Monnier) หญิงสาวชาวฝรั่งเศส ผู้ถูกครอบครัวของตัวเองกักขังในห้องมืดนานกว่า 25 ปี เพียงเพราะเธอตกหลุมรักชายหนุ่มต่างฐานะ ทำให้ผู้เป็นแม่ไม่เห็นด้วย กลายเป็นหนึ่งในเหตุการณ์จริงที่โลกต้องจดจำ และถูกกล่าวขานว่าเป็น “ภาพถ่ายที่น่ากลัวที่สุดตลอดกาล” เพราะเป็นภาพของผู้หญิงที่ถูกทารุณทางร่างกายและจิตใจจนแทบไม่เหลือความเป็นมนุษย์

บลานช์ โมเนียร์ เกิดเมื่อปี ค.ศ.1849 ในครอบครัวชนชั้นสูงของเมืองปัวตีเยร์ ประเทศฝรั่งเศส พ่อของเธอเป็นหัวหน้าภาควิชาวรรณคดี ส่วนมารดาชื่อ หลุยส์ โมเนียร์ เป็นสตรีผู้มีชื่อเสียงจากการทำงานด้านการกุศลและรักในเกียรติยศ

ต่อมาในปี 1876 ขณะที่บลานช์อายุ 27 ปี เธอตกหลุมรักชายคนหนึ่งชื่อ วิกเตอร์ คาลมิเยล ซึ่งเป็นทนายความจากครอบครัวชนชั้นแรงงาน และไม่มีทรัพย์สินติดตัว แม้จะเป็นความรักที่บริสุทธิ์ แต่แม่ของเธอกลับมองว่าเขา “ไม่คู่ควร” กับสถานะของครอบครัว

เมื่อบลานช์ยืนยันจะคบหากับชายคนนี้ แม่ของเธอจึงร่วมมือกับลูกชายอีกคนชื่อ มาร์เซล ลงโทษเธออย่างโหดร้ายด้วยการขังไว้ในห้องใต้หลังคา ไม่มีหน้าต่าง ไม่มีห้องน้ำ ไม่มีแม้แต่อาหารที่เหมาะสม ถูกล่ามโซ่ไว้กับเตียงในสภาพสกปรกและมืดมิด ไม่มีใครเห็นหน้าเธออีกเลยนับตั้งแต่นั้น ครอบครัวโมเนียร์โกหกกับเพื่อนบ้านและสังคมว่า บลานช์ได้เดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศ ไม่มีใครสงสัย เพราะครอบครัวนี้มีชื่อเสียงและได้รับความเคารพจากสังคม

กระทั่งในเดือนพฤษภาคมปี 1901 หลังเวลาผ่านไปกว่า 25 ปี มีจดหมายลึกลับฉบับหนึ่งส่งถึงอัยการสูงสุดของกรุงปารีส ระบุว่า “หญิงสาวคนหนึ่งถูกกักขังในบ้านของมาดามโมเนียร์ กำลังจะตายอย่างทรมานท่ามกลางขยะและของเน่าเหม็น” 

ตำรวจจึงเข้าตรวจค้นบ้าน และพบกลิ่นเหม็นรุนแรงมาจากห้องใต้หลังคา พอเปิดเข้าไปก็พบหญิงวัย 52 ปีอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า ผอมแห้ง น้ำหนักเพียง 24 กิโลกรัม นอนอยู่ท่ามกลางของเสียและซากอาหาร เธอไม่เคยเห็นแสงแดดเลยตั้งแต่ถูกขังในปี 1876

หลังเรื่องแดงขึ้น แม่ของบลานช์ถูกจับในทันที แต่เสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวายในอีก 15 วันต่อมา ส่วนพี่ชายถูกตัดสินจำคุก 15 เดือน แต่ภายหลังได้รับการอภัยโทษ เนื่องจากศาลวินิจฉัยว่าเขามีภาวะบกพร่องทางสติปัญญา จึงไม่สามารถรับผิดชอบทางกฎหมายได้เต็มที่ ขณะที่หญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายไม่เคยฟื้นจากความเจ็บปวด 

แม้ได้รับการช่วยเหลือและส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลจิตเวช แพทย์วินิจฉัยว่าเธอป่วยเป็นโรคจิตเภท อาการเบื่ออาหารขั้นรุนแรง รวมถึงภาวะความผิดปกติทางจิตเกี่ยวกับร่างกายและของเสีย เธอใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในโรงพยาบาล โดยไม่สามารถกลับมาใช้ชีวิตปกติได้อีกเลย และเสียชีวิตในปี 1913 ด้วยวัย 64 ปี

บทเรียนจากคดี “บลานช์ โมเนียร์” เมื่อความรักถูกลงโทษด้วยความทารุณ

คดีนี้สะท้อนให้เห็นถึงความรุนแรงในครอบครัว และการใช้ “ศักดิ์ศรี” หรือ “เกียรติยศ” เป็นข้ออ้างในการกดขี่คนใกล้ตัว ความรักที่ควรถูกปกป้องกลับกลายเป็นต้นเหตุของการลงโทษที่ไร้มนุษยธรรม เรื่องราวของบลานช์ไม่ได้เป็นแค่โศกนาฏกรรมในประวัติศาสตร์ฝรั่งเศส แต่ยังเตือนสังคมทั่วโลกว่าความรุนแรงในครอบครัวไม่ควรถูกปกปิดไว้ด้วยคำโกหก

ภาพถ่ายของบลานช์ในวันที่ได้รับการช่วยเหลือ กลายเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่แสดงให้โลกเห็นว่า บางครั้ง “คนในบ้าน” อาจเป็นผู้สร้างบาดแผลที่ลึกที่สุดในชีวิต

ดังนั้น หากคุณหรือใครที่คุณรู้จักกำลังเผชิญกับปัญหาความรุนแรงภายในครอบครัว ขอให้รู้ว่าคุณไม่ได้อยู่คนเดียว และสามารถขอความช่วยเหลือได้จากสายด่วน หรือศูนย์ช่วยเหลือทั่วประเทศ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Proudly powered by WordPress | Theme: Funky Blog by Crimson Themes.