ทนายรณณรงค์ วิเคราะห์คดี ทูน หิรัญทรัพย์ – 2 วัยรุ่น ใครโกหก!?
วันที่ 11 มิ.ย. 2568 ทูน หิรัญทรัพย์ นักแสดงรุ่นใหญ่ ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ทำร้ายร่างกายบริเวณคลองถม หลังมีปากเสียงระหว่างซื้อของ ได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้า ตาแตก บวม มีเลือดไหล
หลังเกิดเหตุ ทูนเข้าแจ้งความที่ สน.พลับพลาไชย 1 และมอบหมายให้ “จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่” ติดตามคดีอย่างใกล้ชิด
เบื้องต้นคู่กรณีเป็นชาย 2 คน คนหนึ่งเป็นเยาวชน อีกคนหนึ่งอายุประมาณ 20 ปี
ล่าสุด รณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ได้ออกมาวิเคราะห์ประเด็นข้างต้น ตั้งข้อสังเกตว่าทั้ง 2 ฝ่าย อาจไม่ได้พูดความจริงทั้งหมด
“ใครโกหก? ใครพูดไม่หมด? หรือทั้งสองฝ่าย…มีจุดที่ไม่พูดความจริง?
สิ่งที่เรารู้แน่ ๆ (จากคำให้การทั้ง 2 ฝ่าย)
ฝ่าย “ทูน หิรัญทรัพย์” (ผู้เสียหาย – อายุ 69 ปี)
• ถูกวัยรุ่นพูดจาไม่ให้เกียรติว่า “ไม่รู้จักเป็นใคร”
• ทูนจึงตักเตือนในฐานะผู้ใหญ่
• จากนั้นถูกชกเข้าที่ “เบ้าตาขวา” ซึ่งเป็นข้างที่ตาบอด
• มีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ
• ยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะถือว่า “การไม่ให้เกียรติ” ไม่ใช่เรื่องเล็ก
ฝ่าย “นายเอ็ม” (ผู้ก่อเหตุ – อายุ 17 ปี)
• บอกว่าถูกถามว่ารู้จักดาราไหม แล้วตอบว่า “ไม่รู้จัก”
• ทูนได้ยินแล้วต่อว่า พร้อมพูดว่า “ระวังอายุสั้น”
• อ้างว่าทูนเดินมาดึงแขน 2 ครั้งจนล้ม
• จากนั้นจึงโมโห ชกหน้าทูน 3 ที
• ยืนยันว่าไม่ได้รุม แค่ “ตอบโต้เพราะถูกกระทำก่อน”
วิเคราะห์ตามหลักพฤติกรรม:
ทั้งสองฝ่าย “น่าเชื่อถือบางส่วน” และ “น่าสงสัยบางจุด”
ฝ่ายทูน – พูดคล้ายคนที่ช็อกกับการถูกกระทำ แต่…
• พูดถึงการถูกชกโดยไม่เห็นหมัด (เพราะตาขวาบอด) = มีเหตุผลที่ไม่ป้องกันตัวได้
• แต่ไม่กล่าวถึง “การดึงแขนวัยรุ่น” ซึ่งอีกฝ่ายพูดตรงกัน – จุดนี้ อาจเป็นสิ่งที่ทูน “ไม่พูด” เพื่อคงภาพผู้เสียหายไว้
ฝ่ายวัยรุ่น – เน้นว่า “ถูกดึงก่อนจึงตอบโต้” แต่…
• บอกว่าถูกดึง 2 ครั้ง “จนล้ม” แต่ลุกขึ้นมาชกถึง 3 หมัด แถมเป็นผู้เยาว์กับผู้สูงอายุ – ขาดความพอดีในการป้องกันตัว
• ไม่มีภาพหรือพยานสนับสนุนว่าถูกทำร้ายก่อน
• อ้างว่ามี “แฟนทูน” เข้ามารุม แต่ฝ่ายทูนไม่ได้พูดถึงเลย
แปลว่า…มีคนหนึ่ง “พูดไม่หมด” และอีกคนหนึ่ง “อาจพูดเกินจริง”
วิเคราะห์ตามหลักกฎหมาย
กรณี “วัยรุ่นชกผู้สูงอายุ”
• แม้จะอ้างว่าถูกกระทำก่อน แต่การ “ชก 3 หมัดเข้าหน้าคนตาบอด” เป็นการใช้กำลังเกินกว่าเหตุ
• การป้องกันตัวตาม ป.อาญา มาตรา 68 ต้อง “ได้สัดส่วน – พอสมควร – ไม่ใช่การลงโทษ”
หาก “ทูน” ดึงแขนก่อนจริง
• การกระทำของทูนจะเข้าข่ายละเมิดเล็กน้อย (ดึงแขนโดยไม่มีอันตราย)
• วัยรุ่นควรปัดป้องหรือถอย ไม่ใช่ตอบโต้ด้วยกำลังรุนแรง
วิเคราะห์ตามจิตวิทยาเหตุการณ์
• คนมีอายุอย่างทูน มักใช้ “อำนาจเชิงสังคม” (Social Authority) เช่น การตักเตือนโดยตรง
• วัยรุ่นบางคนที่ไม่ยอมให้ผู้ใหญ่สั่งสอน อาจตีความว่าเป็นการดูถูกหรือคุกคาม
• การโต้กลับด้วยกำลังจึงเป็น “ปฏิกิริยาทางอัตตา” ไม่ใช่การป้องกันตัวแท้จริง
สรุปในฐานะ “ทนายรณณรงค์”
มีโอกาสสูงว่า “ทั้งสองฝ่ายต่างพูดไม่หมด”
• ฝ่ายทูน…อาจไม่ได้เล่าว่าตนเข้าไปดึงแขนก่อน
• ฝ่ายวัยรุ่น…อาจพูดลดน้ำหนักความรุนแรงของตัวเอง เพื่อให้ดูเป็นฝ่ายถูกกระทำ
แต่ในทางกฎหมาย – การชกหน้าผู้สูงอายุที่ตาบอด แถมยังมีท่าทีฮึดฮัดต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จะกลายเป็น “ฝ่ายเสียเปรียบ” อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
คดีนี้เป็นภาพสะท้อนที่น่าสนใจว่า
“บางครั้ง ความจริงไม่ใช่ขาวหรือดำ…แต่มันอยู่ตรงกลางที่ใครบางคนเลือกจะไม่พูดถึง”
และไม่ว่าคุณจะเป็นวัยรุ่นหรือดารา…
“ใครเริ่มก่อนไม่สำคัญเท่า ใครหยุดไม่ได้เมื่อมันควรหยุด”
–
ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์
ผู้มากประสบการณ์ในคดี “คนพูดไม่หมด” และ “คนที่คิดว่าตัวเองถูกเสมอ””





