“เสรีพิศุทธ์” เชื่อ”ทักษิณ”หนีแน่ ก่อนขึ้นศาล 13 มิ.ย.นี้

“เสรีพิศุทธ์” เชื่อ”ทักษิณ”หนีแน่ ก่อนขึ้นศาล 13 มิ.ย.นี้

29 พ.ค.68 นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ พร้อมด้วย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ,นายสมชาย แสวงการ ,นายตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ,นายภิมะ สิทธิ์ประเสริฐ และนายนิติธร ล้ำเหลือ ยื่นคำร้องขอส่งมอบพยานหลักฐาน และข้อเท็จจริงต่างๆ ในคดีที่นายทักษิณ ชินวัตร รักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ขณะถูกคุมขัง อันเป็นที่มาของคำร้องฉบับที่ศาลฎีกาได้สั่งรับไว้ไต่สวนหาความจริง  ที่ศาลฎีกาสนามหลวง

\"เสรีพิศุทธ์\" เชื่อ\"ทักษิณ\"หนีแน่ ก่อนขึ้นศาล 13 มิ.ย.นี้

\"เสรีพิศุทธ์\" เชื่อ\"ทักษิณ\"หนีแน่ ก่อนขึ้นศาล 13 มิ.ย.นี้

โดย นายชาญชัยและพวก วันนี้ได้เดินทางมาส่งมอบเอกสารหลักฐานเพื่อประกอบคำร้องเดิมที่เคยยื่นต่อศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของนักการเมือง ก่อนหน้านี้ และศาลมีคำสั่งรับคำร้องไว้ไต่สวนเองตามอำนาจศาล โดยเอกสารที่นำส่งและอ้างไว้ในคำร้องเดิมหน้า 14 ประกอบด้วย

1. สำเนาเอกสารรายงานผลการตรวจของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
2. สำเนาเอกสารคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา
3.สำเนาเอกสารมติคณะกรรมการแพทยสภาที่ได้มีการสอบสวนจริยธรรมแพทย์ที่รับรองการป่วยของนายทักษิณ ชินวัตร
4.สำเนาหนังสือ ปปช. วันที่ 16 ธันวาคม ของนายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ปปช.
5. เอกสารคำให้การของ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส
6. เอกสารคำให้การต่อ ปปช. ของผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ 2 ฉบับ

\"เสรีพิศุทธ์\" เชื่อ\"ทักษิณ\"หนีแน่ ก่อนขึ้นศาล 13 มิ.ย.นี้

ซึ่งนายชาญชัย กล่าวว่าเอกสารที่นำมาโชว์สื่อวันนี้เป็นตัวอย่างที่นำมาโชว์เป็นตัวอย่างประกอบำารสัมภาษณ์ไม่ได้เป็นตัวจริงของเอกสารที่ยื่น และเอกสารทั้งหมดที่นำมายื่นวันนี้ไม่ได้เป็นหลักฐานใหม่ แต่เป็นหลักฐานรายละเอียดประกอบคำร้องเดิมของตนเอง ซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของนักการเมือง ไม่ได้มีคำสั่งชี้แจงในชั้นไต่สวนวันที่ 13 มิถุนายน ตนจึงขอให้ศาลฎีกามีคำสั่งให้นำเอกสารและบุคคลที่มีอำนาจหน้าที่ชี้แจงในชั้นไต่สวนตามอำนาจของศาลฎีกาพิจารณาต่อไป

ด้าน พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ ส่วนตัวเชื่อว่านายทักษิณจะไม่เดินทางมาด้วยตัวเองเนื่องจากหากมีคำพิพากษาในวันดังกล่าวที่ไม่เป็นคุณจะทำให้เกิดความสุ่มเสี่ยงต่อตัวนายทักษิณเองฉะนั้นจึงเชื่อว่านายทักษิณจะหลบหนีก่อนวันที่ 13 มิถุนายน 68

ตอนไปเยี่ยมนายทักษิณ 2 ครั้ง ตนได้พบว่านายทักษิณแต่งกายสบายๆ ใส่เสื้อเชิ้ต สวมรองเท้าแตะ ไม่ได้ใส่อุปกรณ์รักษาพยาบาลหรือปลอกพยุงคอใดๆ มีการพูดคุยเรื่องการเมือง เรื่องต่างๆ ยืนยันได้ว่าทักษิณไม่มีสภาพของการเป็นผู้ป่วย ตนสังเกตพบว่าออกซิเจนปลายนิ้วของนายทักษิณอยู่ที่ประมาณ 90% ตรงข้ามกับตอนที่ตนป่วยค่าออกซิเจนปลายนิ้วอยู่ที่เพียง 70% เท่านั้น

ตนขอยืนยันอีกครั้งว่านายทักษิณไม่ได้ป่วย สอดคล้องกับใบเสร็จต่างๆ ที่เป็นเอกสารหลักฐานว่ามีการจ่ายแค่ค่าห้องพัก นายทักษิณได้ใช้โรงพยาบาลเป็นสถานที่รับแขก เพื่อหารือเรื่องต่างๆ ตนเองเป็นคนหนึ่งที่ได้รับความไว้วางใจให้ไปเยี่ยม

แต่ทั้งนี้ตนเองรักประเทศชาติ ประชาชนและสถาบันฯ มากกว่าจึงมีความจำเป็นที่จะต้องมาเปิดเผยเรื่องนี้และเมื่อศาลฎีกาทำการไต่สวน ตนก็ได้จัดทำสรุปทั้งหมด และหลักฐานทั้งหมดให้ศาล รวมทั้งมีรูปประกอบการพิจารณาของศาลในวันที่ 13 มิ.ย. นี้

\"เสรีพิศุทธ์\" เชื่อ\"ทักษิณ\"หนีแน่ ก่อนขึ้นศาล 13 มิ.ย.นี้

ทั้งนี้มติแพทยสภาเป็นส่วนสำคัญมากในเรื่องนี้ ตนในฐานะเป็นสมาชิกของแพทยสภายืนยันว่าแพทยสภาทำงานอย่างมืออาชีพ ตนเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการไต่สวน วันที่ 13 มิถุนายน 68 เป็นอย่างมาก

นายนิติธร ระบุว่า คำร้องของทั้ง 4 ท่านที่นำมายื่นต่อศาลเป็นคำร้องในฐานะบุคคลภายนอกแต่อาศัย ข้อกำหนดเกี่ยวกับการดำเนินคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของนักการเมืองพ.ศ 2563 ข้อ 62

โดยคำร้องของท่านชาญชัยอธิบายภาพรวมเชื่อมโยงเรื่องราวต่างๆรวมทั้งมีไทม์ไลน์ตั้งแต่วันที่นายทักษิณถึงประเทศไทยไปเรือนจำ ไปโรงพยาบาลตำรวจและจบที่การพักโทษ เป็นการรวบรวมบทสัมภาษณ์ต่างๆและรายงานการตรวจสอบของทุกหน่วยงานส่วนนี้จะเป็นสำนวนหลัก

ส่วนหลักฐานของนายสมชายในฐานะที่เป็นคณะกรรมการที่สอบสวนเรื่องนี้โดยตรง ส่วนนี้จะเป็นหลักฐานสำคัญเพราะเป็นการดำเนินงานตามอำนาจรัฐและผู้ที่ให้ข้อมูลเป็นเจ้าหน้าที่รัฐในสำนวนนี้มีตัวอย่างใบเสร็จการรักษา ซึ่งจะทำให้เห็นกระบวนการรักษาและเชื่อมโยงไปให้เห็นสภาพร่างกายของนายทักษิณ

สำนวนหลักฐานของนพ.ตุลย์เน้นเรื่องการพักโทษอาศัยประสบการณ์ความเป็นแพทย์ที่ยื่นเรื่องนี้ต่อปปช. ที่จะบรรยายเรื่องนี้ให้เห็น ขณะที่ของท่านเสรีพิศุทธ์เป็นประจักษ์พยานปากเดียว ที่จะทำให้เห็นชัดเจนว่าการที่นำผู้ต้องขังออกมารักษานอกเรือนจำจะต้องมีเจ้าหน้าที่ดูแลทุกขั้นตอน แต่ทั้งหมดที่เห็นกลับไม่มี ในวันที่ไปเยี่ยมไม่พบแพทย์,พยาบาล และเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ รวมทั้งสภาพร่างกายของนายทักษิณไม่ตรงสภาพผู้ป่วย

นายนิติธร ยืนยันว่าเอกสารหลักฐานและพยานบุคคลพร้อมที่จะให้ถ้อยคำต่อศาลตามขอบเขตที่ศาลอนุญาต

นายแพทย์ตุลย์ กล่าวเสริมว่าหากนายทักษิณมีการป่วยจริงใบเสร็จค่ารักษาพยาบาลจะต้องปรากฏเป็นค่ายาจำนวนมาก แต่ถ้าไม่มีค่ายาตลอด 180 วันเป็นข้อพิรุธที่ศาลสามารถนำไปไต่สวนได้ ซึ่งใบเสร็จค่ารักษาที่ปรากฏ มีแต่ค่าห้องพัก

ทั้งนี้มติแพทยสภาเป็นส่วนสำคัญมากในเรื่องนี้ ตนในฐานะเป็นสมาชิกของแพทยสภายืนยันว่าแพทยสภาทำงานอย่างมืออาชีพ ตนเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการไต่สวน วันที่ 13 มิถุนายน เป็นอย่างมาก

ส่วนที่มีการเปิดเผยห้องสนทนา(กลุ่มไลน์)ของคณะกรรมการแพทยสภา เรื่องการสรุปผลมติการลงโทษกลุ่มแพทย์ที่ทำการรักษานายทักษิณ และมีสมาชิกในห้องสนทนาตอบว่า Yes จากการที่ตรวจสอบตนยืนยันว่าไม่มีจริงแน่นอน การที่นายทักษิณออกมาพูดในลักษณะดังกล่าวแสดงว่าต้องมีฝ่ายใดโกหก

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Proudly powered by WordPress | Theme: Funky Blog by Crimson Themes.