เกิดเหตุการณ์ระทึกที่อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ ชายวัย 30 ปี ที่เพิ่งพ้นโทษคดียาเสพติด ถูกน้าใช้อาวุธปืนหน้าไม้ยิงเข้าที่ลำคอทะลุ อาการสาหัส หลังไม่พอใจที่ลูกสาวปฏิเสธให้ยืมโทรศัพท์ และพยายามจะเข้าทำร้ายร่างกาย ลูกสาววัย ม.5 เบื้องต้นตำรวจตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับอันตรายสาหัส

​เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2568 เวลาประมาณ 19.30 น. ร.ต.อ.ณฐกร แหววกระโทก รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.ชุมแสง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาทและมีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกยิงด้วยปืนหน้าไม้สำหรับยิงปลา ที่บ้านสมเจริญ หมู่ที่ 14 ต.หนองใหญ่ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ชีพ อบต.หนองใหญ่
​ที่เกิดเหตุบริเวณบ้านหมู่ที่ 14 บ้านสมเจริญ พบ นายกวีวัธน์ อายุ 30 ปี ถูกยิงด้วยลูกดอกเหล็กหาปลาเข้าที่บริเวณลำคอจนทะลุออกด้านหลัง เจ้าหน้าที่ได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลสตึก โดยอาการล่าสุดยังคงสาหัส
​นายลิขิต อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนเห็นนายกวีวัธน์วิ่งเอามือกุมคอ โดยมีลูกดอกปักคาอยู่และมีเลือดไหลออกมา เพื่อมาขอความช่วยเหลือ ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นน้าเขยของนายกวีวัธน์ ทราบเพียงว่าทั้งสองมีปากเสียงกันแต่ไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง
​ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ชุมแสง ได้เข้าควบคุมตัว นายวัชระ หรือน้อย อายุ 51 ปี ผู้ก่อเหตุ พร้อมของกลางเป็นปืนหน้าไม้ที่ใช้ก่อเหตุ มาสอบสวนที่ สภ.ชุมแสง
​จากการสอบสวน นายวัชระ ซึ่งอยู่ในอาการมึนเมา เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ นายกวีวัธน์ ซึ่งเพิ่งพ้นโทษจากเรือนจำบุรีรัมย์ในคดียาเสพติด ได้มาช่วยตนเกี่ยวข้าว หลังเลิกงานได้ชวนกันดื่มเหล้า จากนั้น นายกวีวัธน์ ได้ไปขอยืมโทรศัพท์มือถือจากลูกสาวของตน ซึ่งกำลังเรียนอยู่ชั้น ม.5 เพื่อโทรหาแม่ที่จังหวัดชลบุรี แต่ลูกสาวปฏิเสธที่จะให้ยืม เนื่องจากต้องใช้โทรศัพท์ค้นคว้าทำการบ้านส่งครู ทำให้นายกวีวัธน์ไม่พอใจ และเริ่มด่าทอ จนเกิดการโต้เถียงกับลูกสาว ตนจึงเข้าไปห้ามปราม แต่นายกวีวัธน์กลับปรี่เข้ามาเหมือนจะทำร้าย ตนจึงคว้าปืนหน้าไม้ยิงปลาที่วางพิงอยู่ข้างฝาบ้านยิงออกไปเพื่อป้องกันตัว โดยไม่คิดว่าจะถูกลำคอของนายกวีวัธน์ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส
​เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหา “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับอันตรายสาหัส” และจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ทีมข่าวจังหวัดบุรีรัมย์รายงาน