ไม่รอช้า! จีน-อิสราเอล ผลิตและส่งมอบ ยุทโธปกรณ์ DTI ให้ไทยแล้ว
เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหารชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความรายงาน ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า รวดเร็ว รุนแรง แม่นยำ จรวดหลายลำกล้อง DTI-1G พร้อม รถยิงจรวด D11A DTI กลาโหม วิจัยพัฒนาร่วมกับ จีน-อิสราเอล ผลิต และส่งมอบ ให้ทบ. แล้ว เตรียมใช้งานจริง ปกป้องอธิปไตย ได้ไกลถึง 300 กม. พร้อมใช้สมรภูมิเขมร

ในงาน Defense and Security 2025 ที่ อิมแพ็คเมืองทองธานี สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (สทป.) ส่งมอบยุทโธปกรณ์ ให้แก่หน่วยผู้ใช้เพื่อนำเข้าประจำการ โดยมีพลเอก อานุภาพ ศิริมณฑล หัวหน้าคณะนายทหาร เสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา กองทัพบก เป็นผู้แทนรับมอบจำนวน 3 รายการ คือ
1. ต้นแบบรถฐานยิงจรวดหลายลำกล้องอเนกประสงค์ D11A
2. ปืนใหญ่เบาขนาด 105 มิลลิเมตร แบบ CS/AH2 มอบให้ ศูนย์การทหารปืนใหญ่
3. จรวดหลายลำกล้องนำวิถี แบบ DTI-1G ส่งมอบให้กับกองพลทหารปืนใหญ่

โดยในส่วนของปืนใหญ่เบาขนาด 105 มิลลิเมตร ได้มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากประเทศจีน และนำมาประกอบโดยเจ้าหน้าที่ของ สทป.ในประเทศไทยเอง
ส่วนจรวดหลายลำกล้องนำวิถี แบบ DTI-1G ก็ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากประเทศจีนเช่นกัน ซึ่งรถดังกล่าวได้ใช้จริงในสนามรบมาแล้ว ในเหตุการณ์ชายแดนที่ผ่านมา ขณะที่รถฐานยิงจรวดหลายลำกล้องอเนกประสงค์ D11A ที่สามารถทำการยิงจรวดได้ 5 รูปแบบ ได้แก่ ขนาด 122 มม. ระยะยิง 40 กิโลเมตร, ขนาด 306 มม. ระยะยิง 150 กิโลเมตร, ขนาด 370 มม. ระยะยิง 300 กิโลเมตร และได้รับการถ่ายทอดจากบริษัท Elbit Systems ซึ่งเป็นบริษัทจากประเทศอิสราเอล สามารถยิงต่อระยะยิงได้ไกลที่สุดมากกว่า 450 กิโลเมตร

นอกจากนี้ ยังสามารถทำการยิงแบบอเนกประสงค์ ซึ่งเมื่อปล่อยออกไปแล้วสามารถตรวจการณ์หาเป้าหมาย และสามารถแปรสภาพเป็นจรวดทำลายต่อเป้าหมายได้เลย โดยหากไม่ใช้ก็สามารถบินกลับมาที่เดิมได้ เพื่อใช้ในรอบต่อไป ซึ่งทั้งหมดนี้ได้มีการรับรองมาตรฐานเรียบร้อยแล้ว

