ภาพล่าสุด “น้องอุ้ม”พยาบาลอุ้มผาง สู้มา3ปี หลังอุบัติเหตุสาหัส
จากกรณีอุบัติเหตุรถพยาบาลโรงพยาบาลอุ้มผางชนกับรถพ่วง ทำให้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลอุ้มผางได้รับบาดเจ็บกว่า 5 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส หนึ่งในนั้นคือ น้องอุ้ม พยาบาลอุ้มผาง ซึ่งต่อมาได้รับการส่งตัวมารักษายังโรงพยาบาลราชวิถี เหตุเกิดเมื่อมกราคม 2565 ที่ผ่านมา และเป็นเวลากว่า 3 ปี 10 เดือน ที่น้องอุ้มรับการรักษาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับกำลังใจจากสังคมที่ส่งให้อย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดเพจ “เรื่องเล่าหมอชายแดน” โพสต์ระบุว่า วันที่ 2 ตุลาคม 2568 จะเป็นวันที่น้องอุ้ม นางสาวปุณยวีร์ ศรีดวงแปง ตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ โรงพยาบาลอุ้มผาง จ.ตาก ได้กลับมาพักฟื้นร่างกายที่โรงพยาบาลอุ้มผางครบ 2 ปี หลังจากเกิดเหตุการณ์อุบัติเหตุรถพยาบาลรีเฟอร์ส่งผู้ป่วยที่ติดเชื้อในกระแสเลือดรุนแรงมารักษาที่โรงพยาบาลแม่สอดชนกับรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ บนถนนแม่สอด-อุ้มผาง เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2565 เวลา 22.30 น.
น้องอุ้มบาดเจ็บทางสมองอย่างรุนแรงจนต้องเข้ารับการผ่าตัดสมองฉุกเฉินที่โรงพยาบาลแม่สอด มีซี่โครงหัก และมีบาดแผลฉีกขาดบริเวณขา 2 วันต่อมาได้ความช่วยเหลือจากกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขประสานส่งต่อโรงพยาบาลราชวิถีโดยเฮลิคอปเตอร์ศูนย์นเรนทรและสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน ได้เข้ารักษาในหอผู้ป่วยวิกฤตระยะหนึ่ง ได้รับการดูแลอย่างเต็มที่ มีภาวะฉุกเฉินหัวใจเต้นช้าจนต้องใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ ได้ทำกายภาพอย่างต่อเนื่องจนร่างกายค่อยๆฟื้นฟูจนผ่านระยะวิกฤติ
ต่อมาน้องอุ้มได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯให้เป็นผู้ป่วยในพระบรมราชานุเคราะห์ตลอดการรักษา รักษาตัวในโรงพยาบาลราชวิถีตั้งแต่ 17 มกราคม 2565 จนถึง 7 กุมภาพันธ์ 2566 (ประมาณ 1ปี) ได้รับการดูแลจากทีมแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลราชวิถีเป็นอย่างดีมาก หลังจากนั้นย้ายไปดูแลต่อที่สถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ ได้รับการฟื้นฟูอย่างดีจนอาการคงที่ ขอขอบคุณผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ขอบคุณผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ทุกท่านของโรงพยาบาลราชวิถีและสถาบันสิรินธรเป็นอย่างสูงค่ะ
วันที่ 2 ต.ค. 2566 ได้กลับมาแอดมิทในโรงพยาบาลอุ้มผางเพื่อดูแลฟื้นฟูต่อ ปัจจุบันทางโรงพยาบาลอุ้มผางได้จัดสถานที่ดูแลน้องอุ้มภายในโรงพยาบาล มีคุณแม่และคุณพ่อช่วยกันดูแล โดยคุณแม่เป็นผู้อภิบาลหลัก แขนขาด้านขวาสามารถขยับได้แรงดี แต่แขนขาด้านซ้ายอ่อนแรงไม่สามารถขยับได้ ยังกลืนเองไม่ได้ต้องให้อาหารเหลวทางสายยางโดยผ่าตัดสายสวนที่กระเพาะอาหารจากโรงพยาบาลแม่สอด ปัจจุบันยังพูดไม่ได้ ทำตามสั่งได้เล็กน้อย เช่น ชูจำนวนนิ้วตามคำสั่ง, มองตามสิ่งของ, ยิ้ม, เอื้อมมือจับลูกบอลหรือสิ่งของเบาๆ โดยวางแผนการฟื้นฟูร่วมกันทั้งแพทย์ นักกายภาพและนักกิจกรรมบำบัด นึกย้อนกลับไปวันแรกที่น้องอุ้มประสบอุบัติเหตุ การที่น้องรอดชีวิตและมีพัฒนาการดีขึ้นตามลำดับคือของขวัญของพวกเราทุกคน
วันนี้น้องอุ้มและคุณแม่ได้ฝากรูปรอยยิ้มมาให้ทุกท่านเป็นการขอบคุณ ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ ขอช่วยกันเป็นกำลังใจให้น้องอุ้มต่อไปด้วยนะคะ ให้น้องกลับมาใช้ชีวิตได้เป็นปกติและมีความสุขค่ะ
ทุกท่านมีส่วนร่วมในการส่งกำลังใจมาให้จากทั่วทุกสารทิศเมืองไทย ร่วมกันบริจาคเงินเพื่อตั้งเป็นกองทุนช่วยเหลือน้องอุ้มและครอบครัว (กองทุนพี่ช่วยน้อง) วันที่ 4 เมษายน 2565 ทางกลุ่มการพยาบาลโรงพยาบาลอุ้มผางประกาศสรุปเงินบริจาคจำนวน 1,710,254 บาท เงินกองทุนนี้ได้นำมาใช้จ่ายเพื่อการรักษาฟื้นฟูน้องอุ้ม เช่นการจ้างพี่เลี้ยงช่วยดูแล ค่าแพมเพิร์สและอุปกรณ์ต่างๆ ตลอด 3 ปี 10 เดือนที่ผ่านมา ช่วยเหลือครอบครัวน้องอุ้มได้อย่างมากค่ะ
ทางครอบครัวและโรงพยาบาลอุ้มผางขอกราบขอบพระคุณผู้มีส่วนช่วยเหลือน้องอุ้มทุกท่าน ทุกหน่วยงาน ระลึกเสมอว่าแม้พวกเราจะต้องปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ห่างไกลทุรกันดารแต่เมื่อเกิดภัยกับชีวิตและร่างกาย คนไทยทุกคนก็พร้อมช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานด้วยความเสียสละอย่างทันที ต่อจากนี้วางแผนว่าหากอาการคงที่จะได้ออกจากโรงพยาบาลไปพักฟื้นต่อที่บ้านในอำเภออุ้มผาง หากท่านอยากจะช่วยเหลือน้องอุ้มและครอบครัวยังสามารถบริจาคในบัญชีกองทุนพี่ช่วยน้อง หรืออยากจะช่วยเหลือเป็นอุปกรณ์ต่างๆเช่นแพมเพิร์ส สามารถติดต่อที่โรงพยาบาลอุ้มผาง โทร 055-561270 ติดต่อฝ่ายการพยาบาลค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าหมอชายแดน