“สุวิทย์ ทองประเสริฐ” อดีต พระพุทธะอิสระ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara) ระบุ

เรามาย้ำเตือนความเข้าใจ และความทรงจำกันหน่อยดีกว่า

๑๐ กันยายน ๒๕๖๘

เมื่อองค์พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ และทรงใช้พระราชอำนาจตามกฎหมายลดโทษให้แก่นายทักษิณจาก ๘ ปี ให้เหลือ ๑ ปี ที่จะต้องติดคุก

ผู้มีหน้าที่จักต้องปฏิบัติตามให้เป็นไปตามพระราชวินิจฉัย ก็คือ นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์

แต่ข้อเท็จจริงที่ปรากฏ คือ นายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยทั้ง ๒ คน และรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้ทำการละเมิดพระราชอำนาจ ด้วยการทุจริต เพิกเฉย ปล่อยปละละเลย ให้เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติทุจริต ฉ้อฉล ทำอุบาย ให้นายทักษิณ มิต้องติดคุกแม้แต่วันเดียว ด้วยการแสดงแกล้งเป็นผู้ป่วยวิกฤต จนต้องส่งโรงพยาบาลตำรวจ และได้ไปนอนในห้องวีไอพี ชั้น ๑๔
ซึ่งเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานกระทำการ “ละเมิดพระราชอำนาจ” ก็มีตั้งแต่พยาบาลเวรประจำกรมราชทัณฑ์ หมอเวรประจำกรมราชทัณฑ์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่เวรของกรมราชทัณฑ์ หมอเวรโรงพยาบาลตำรวจที่ให้การวินิจฉัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลตำรวจ เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง และตัวนายกรัฐมนตรีทั้งสองของพรรคเพื่อไทย

 

 

ไม่เว้นแม้แต่นักการเมืองของพรรคเพื่อไทยบางคน ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า นายทักษิณเป็นผู้ป่วยในขั้นวิกฤต ซึ่งเป็นความเท็จ

บุคคลเหล่านี้ถือได้ว่า ร่วมกันละเมิดพระราชอำนาจโดยมีเจตนาให้นายทักษิณมิต้องได้รับโทษตามพระราชวินิจฉัย

และเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๕๗
ส่วนจักผิดกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒ หรือไม่

นั้นก็ต้องวินิจฉัยเป็นรายบุคคล และเป็นกรณีไป

ส่วนนักการเมืองและข้าราชการ ก็อาจจะมีความผิดกรณีทุจริต ประพฤติมิชอบต่อหน้าที่ ซึ่งก็มีประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๕๗

บุคคลทั้งหมดดังกล่าวมา ประชาชนทั่วไปสามารถไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษแก่เจ้าพนักงานสอบสวนได้ทุกแห่งในแผ่นดินนี้

พุทธะอิสระ