จากเมื่อวันที่ 9 ก.ย. ที่ผ่านมา ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาให้นาย ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องโทษจำคุก 1 ปี โดยเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครรับตัวเข้าไปคุมขัง ก่อนจะดำเนินการย้ายไปยังเรือนจำกลางคลองเปรม เนื่องจากเป็นนักโทษเด็ดขาด และต้องจัดจำแนกแดนตามประเภทผู้ต้องขัง

ล่าสุด กรมราชทัณฑ์ได้กำหนดมาตรการคุมเข้มภายในเรือนจำกลางคลองเปรม โดยเบื้องต้นให้กักโรคโควิด-19 เป็นเวลา 5 วัน (9–13 ก.ย.) พร้อมมอบหมายผู้ต้องขังประพฤติดีมาทำหน้าที่ “บัดดี้” ช่วยเหลือและประกบดูแลความปลอดภัย ก่อนจะพิจารณาแยกแดนคุมขังที่เหมาะสมต่อไปในส่วนการใช้ชีวิตประจำวัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ต้องขังสามารถมีบัญชีเงินฝากภายในเรือนจำเพื่อใช้ซื้อของอุปโภคบริโภคได้ โดยมีเงื่อนไขดังนี้

ฝากเงินได้สูงสุด ไม่เกิน 15,000 บาท สามารถเบิกใช้ได้วันละ 500 บาท

เงินส่วนนี้จะใช้สำหรับซื้อสิ่งจำเป็นต่าง ๆ ภายในเรือนจำ โดยญาติหรือบุคคลที่มีชื่ออยู่ในบัญชีเยี่ยมญาติ 10 รายชื่อ สามารถฝากเงินให้ได้ตามระบบที่กรมราชทัณฑ์กำหนด

สำหรับบรรยากาศด้านหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม ผู้สื่อข่าวหลายสำนักยังคงติดตามสถานการณ์การนอนคุกคืนแรกของนายทักษิณ ขณะที่ครอบครัวชินวัตรมีรถตู้ Mercedes-Benz สีเทา เลขทะเบียน ธห 1155 กรุงเทพมหานคร ขับเข้ามาบริเวณวงเวียนด้านใน แต่ไม่ได้หยุดหรือมีใครลงมาให้พบเห็นทั้งนี้ ทนายวิญญัติ ชาติมนตรี เปิดเผยว่ายังไม่มีกำหนดเข้าเยี่ยมนายทักษิณในช่วงนี้ ขณะที่โฆษกและรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ยังไม่สามารถติดต่อเพื่อสอบถามถึงสุขภาพร่างกายและจิตใจ รวมถึงรายละเอียดชีวิตความเป็นอยู่คืนแรกได้