รู้จัก 1 โรคร้าย อัตราเสียชีวิตมากกว่ามะเร็ง ทุก 3 วินาทีจะมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 1 คน
ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) และ Alzheimer’s Disease International คาดการณ์ว่าในปี 2030 จะมีผู้ป่วยสมองเสื่อมทั่วโลกประมาณ 78 ล้านคน และจะเพิ่มเป็น 139 ล้านคนในปี 2050
ข้อมูลจากสมาคมอัลไซเมอร์แห่งสหรัฐอเมริกา (Alzheimer’s Association) ระบุว่า โรคอัลไซเมอร์เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับที่ 6 ของผู้สูงอายุอายุ 65 ปีขึ้นไป ในปี 2022 โดยมีอัตราการเสียชีวิตจากโรคนี้มากกว่าการเสียชีวิตจากมะเร็งเต้านมและมะเร็งต่อมลูกหมากรวมกัน
ในช่วงปี 2000 ถึง 2022 จำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคอัลไซเมอร์เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว ในขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคหัวใจ ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่ง กลับลดลง
ข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (CDC) แสดงให้เห็นว่า อัตราการเสียชีวิตจากโรคสมองเสื่อมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงปี 2018 ถึง 2022 โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิงและผู้สูงอายุที่มีเชื้อสายยุโรป-อเมริกัน (White non-Hispanic)
จากข้อมูลเหล่านี้สามารถสรุปได้ว่า โรคสมองเสื่อม โดยเฉพาะโรคอัลไซเมอร์ มีอัตราการเสียชีวิตที่สูงกว่ามะเร็งบางชนิด และกำลังเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญทั่วโลก
ภาวะสมองเสื่อมแบ่งออกเป็น 3 ระยะ
ระยะเริ่มต้น
-
การรับรู้และจดจำข้อมูลลดลง
-
ซ้ำคำถามหรือเรื่องเดิมบ่อยครั้ง
-
สูญเสียความสามารถในการจัดการเงิน
-
ลืมตำแหน่งสิ่งของและง่ายต่อการสับสน
-
อาจหลงทาง
ระยะกลาง
อาการชัดเจนขึ้น เช่น
- ลืมว่ากินอะไรในเช้า
- ลืมความทรงจำบางส่วน
- ยากต่อการเลือกชุดเสื้อผ้าที่เหมาะสม
- ลืมหมายเลขโทรศัพท์
- สับสนง่าย
ระยะปลาย
-
ไม่รับรู้สิ่งแวดล้อมรอบตัว
-
เดินเร่ร่อน หลงเพื่อนหรือคนในครอบครัว
-
ลืมประวัติชีวิตตัวเอง
-
สูญเสียการควบคุมปัสสาวะและอุจจาระ
-
เปลี่ยนแปลงบุคลิกและพฤติกรรม
-
ต้องการความช่วยเหลือเต็มรูปแบบในการดำเนินชีวิตประจำวัน
ระยะเริ่มต้น
-
ผู้ดูแลควรใกล้ชิด พูดคุย สร้างความเชื่อใจ
-
หลีกเลี่ยงการเถียงหรืออภิปรายกับผู้ป่วย
-
เก็บเอกสารสำคัญไว้กับญาติ
-
จัดบ้านให้เห็นสิ่งของง่าย ป้องกันพื้นลื่นในห้องน้ำ
-
ควบคุมและเตือนการทานยาให้ตรงเวลา
ระยะกลาง
-
เฝ้าติดตามและช่วยเหลือผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด
-
เตือนความจำเรื่องกิจวัตรและเรื่องสำคัญ
-
ช่วยผู้ป่วยทำกิจกรรมประจำวัน เช่น ทำอาหารหรือใส่เสื้อผ้า
-
ทำป้ายหรือเขียนชื่อสิ่งของให้อ่านง่าย
-
ดูแลการทานยาและตรวจสอบให้แน่ใจว่าทานเข้าไปในร่างกาย
ระยะปลาย
-
ต้องดูแลตลอด 24 ชั่วโมงและมีผู้เชี่ยวชาญช่วยดูแล
-
สิ่งแวดล้อมต้องปลอดภัยและเรียบง่าย ไม่มีสิ่งของมาก
-
ไม่ควรปล่อยผู้ป่วยอยู่คนเดียวหรือในพื้นที่แปลก
-
เก็บอุปกรณ์มีคม เช่น มีด ให้ล็อกไว้
-
กำหนดเวลาอาหาร การทานยา และการทำกิจวัตร
-
แนะนำให้ติดป้ายที่อยู่และเบอร์โทรญาติบนเสื้อผู้ป่วย
ข้อมูลสถิติและผลกระทบทางเศรษฐกิจ
- ทุก 3 วินาที จะมีผู้ป่วยสมองเสื่อมเกิดขึ้นหนึ่งคน
-
ปี 2019 มีผู้ป่วย 55 ล้านคน
-
ในสหรัฐฯ การเข้ารับการรักษาฉุกเฉินจาก SSTT สูงถึง 28% ระหว่างปี 2008–2018
-
ช่วง-19 อัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 16%
-
ปี 2021 ค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ของผู้ป่วย SSTT ประมาณ 355 พันล้านดอลลาร์
ภาวะสมองเสื่อมเป็นโรคเรื้อรังที่ค่อย ๆ แย่ลง ผู้ป่วยมักมีปัญหาด้านความจำ การทำกิจวัตรประจำวัน และเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดอักเสบ การดูแลผู้ป่วยต้องปรับตามระยะของโรค รวมถึงจัดโภชนาการที่เหมาะสม เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และลดภาระของครอบครัวและสังคม