แม่เล่าทั้งน้ำตา ลูกไม่ได้ลืมเอาเงินไป รร. แต่วันนั้นแม่ไม่มีเงินให้เอง ลูกจึงหยิบขนมครูกิน กลับถูกครูใช้ฟุตเหล็กตีและตบปาก

แม่เล่าทั้งน้ำตา ลูกไม่ได้ลืมเอาเงินไป รร. แต่วันนั้นแม่ไม่มีเงินให้เอง ลูกจึงหยิบขนมครูกิน กลับถูกครูใช้ฟุตเหล็กตีและตบปาก

จากเหตุที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.แม่เมาะ น้องพ๊อต  เด็กชายวัย 7 ขวบ ชั้น ป.1 ถูกครูประจำชั้นวัย 23 ปี ทำร้ายร่างกายด้วยความรุนแรงใช้ฟุตเหล็กฟาดใบหน้า 14 ครั้ง ตบปาก 10 ครั้ง หยิกคอ และบังคับให้ไปล้างห้องน้ำ เหตุเกิดเพราะเด็กหยิบขนมมาร์ชเมลโล่บนโต๊ะครูกิน เนื่องจากไม่ได้รับเงินจากแม่ไปโรงเรียน

นางดา (นามสมมุติ) อายุ 48 ปี แม่ของน้องพ๊อต เล่าว่า วันเกิดเหตุเธอไม่มีเงินให้ลูกซื้อขนม ลูกจึงเผลอหยิบขนมบนโต๊ะครูมากินโดยไม่ได้บอก ครูจึงลงโทษรุนแรง หลังกลับจากทำงานเห็นลูกนั่งเหม่ออยู่หน้าบ้านและมีรอยฟกช้ำเต็มใบหน้าและลำคอ แม่จึงสอบถามจนทราบเรื่องทั้งหมด

เธอกล่าวทั้งน้ำตาว่า เจ็บปวดและสงสารลูกมาก ลูกบอกไม่อยากไปโรงเรียน กลัวครูตี ขอให้ย้ายครูคนนี้ออกจากโรงเรียน

แม่เศร้าใจ ลูกไม่ได้ลืมเอาเงินไป รร. แต่แม่ไม่มีเงินให้ จึงหยิบขนมครูกิน

ด้านนายรัตน์ อุหม่อง กำนัน ต.นาสัก และนายณรงค์เดช วงศ์อ้าย ผู้ใหญ่บ้านข่วงม่วง เปิดเผยว่า ช่วงเช้าของวันเกิดเหตุ นายสุรพร จันทร์ทบ สารวัตรกำนัน เห็นน้องพ๊อตไม่ไปโรงเรียน และสังเกตรอยฟกช้ำบนใบหน้าและแก้ม จึงสงสัยแรกเริ่มคิดว่าเด็กถูกทำร้ายที่บ้าน หลังสอบถามทราบว่าเด็กถูกครูฟาดด้วยฟุตเหล็กและทำร้ายร่างกายเกินกว่าเหตุ จึงประสานผู้ปกครองพาเด็กไปตรวจร่างกาย แพทย์ยืนยันรอยช้ำเกิดจากวัตถุแข็งไม่คม

หลังเกิดเหตุ ครูผู้ก่อเหตุได้โทรศัพท์ไปขอโทษกำนันและขอไม่เอาเรื่อง แต่ผู้นำชุมชนยืนยันว่าไม่สามารถยอมความได้ เพราะเป็นการทำร้ายเด็กเกินกว่าเหตุ และอาจเกิดซ้ำกับนักเรียนคนอื่น ขณะเดียวกัน ครูบางคนในโรงเรียนเผยว่า ครูรายนี้เคยมีพฤติกรรมลงโทษเด็กด้วยการขังในห้อง และมักเก็บตัว ไม่สุงสิงกับใคร
นอกจากนี้ ผู้ใหญ่บ้าน เปิดเผยว่า แม่เด็กได้พยายามเข้าแจ้งความ แต่ครั้งแรกตำรวจปฏิเสธอ้างกลัวลูกจะมีประวัติความผิดลักทรัพย์ ทั้งที่เรื่องนี้เป็นคดีทำร้ายร่างกายเด็ก สุดท้ายตำรวจก็รับแจ้งความ หลังการประสานของผู้ใหญ่บ้านและกำนัน ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนแห่งนี้

แม่เด็กและผู้นำชุมชนยืนยันว่าจะติดตามเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด เพื่อความปลอดภัยของเด็กนักเรียนทุกคน และเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการย้ายครูออกจากโรงเรียน พร้อมทั้งดำเนินคดีทางกฎหมายกับผู้ก่อเหตุอย่างเด็ดขาด

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Proudly powered by WordPress | Theme: Funky Blog by Crimson Themes.