พื้นที่โคฮิสถาน (Kohistan) ทางตอนเหนือของปากีสถาน ได้เกิดการค้นพบที่น่าตกใจ หลังธารน้ำแข็งละลาย เผยให้เห็นเหตุการณ์ลึกลับที่ถูกเก็บงำมากว่า 28 ปี เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา คนเลี้ยงแกะท้องถิ่นได้พบร่างที่ถูกเก็บรักษาไว้อย่างสมบูรณ์ริมธารน้ำแข็ง “เลดี้มีโดวส์” (Lady Meadows Glacier) ซึ่งภายหลังยืนยันว่าเป็น นาซิรูดดิน (Nasiruddin) ชายวัย 31 ปีที่หายสาบสูญไปท่ามกลางพายุหิมะในปี 1997

ตามรายงานของ BBC และ AFP นาซิรูดดินและพี่ชายได้ขี่ม้าขึ้นภูเขาเพื่อหลบหนีความขัดแย้งในหมู่บ้าน แต่ระหว่างทางกลับเผชิญพายุหิมะและพลัดตกลงรอยแยกน้ำแข็ง พี่ชายรอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด แต่นาซิรูดดินกลับหายสาบสูญไร้ร่องรอย ครอบครัวพยายามตามหาอยู่หลายปี แต่ท้ายที่สุดต้องล้มเลิกเพราะสภาพภูมิประเทศอันตรายและข้อจำกัดทางเทคนิค จนกระทั่งล่าสุดได้พบร่างพร้อมบัตรประชาชนและเสื้อผ้าที่สมบูรณ์ ทำให้ครอบครัวได้รับการปลอบประโลมใจ

“ตอนเห็นครั้งแรก แทบไม่เชื่อสายตา ร่างกายครบถ้วน เสื้อผ้าไม่มีขาดเลย” โอมาร์ ข่าน (Omar Khan) คนเลี้ยงแกะผู้ค้นพบเล่า ขณะที่ มาลิก อูไบด์ (Malik Ubaid) หลานชายกล่าวว่า “ในที่สุดเราก็พบเขา มันทำให้พอจะวางใจได้บ้าง” ร่างของนาซิรูดดินถูกฝังเมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา ภรรยาและลูกสองคนได้มีโอกาสกล่าวคำอำลาครั้งสุดท้าย

ภาวะโลกร้อนคุกคามโลก

ผู้เชี่ยวชาญอธิบายว่า เมื่อร่างคนตกลงไปในธารน้ำแข็ง อุณหภูมิต่ำจัดจะทำให้แช่แข็งทันที หยุดกระบวนการเน่าเปื่อย ประกอบกับความชื้นต่ำและขาดออกซิเจน ทำให้ร่างอยู่ในสภาพ “มัมมี่น้ำแข็ง” ได้ยาวนานหลายสิบปี พื้นที่โคฮิสถานอยู่รอบนอกเทือกเขาหิมาลัย เดิมธารน้ำแข็งมีเสถียรภาพ แต่ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ภาวะโลกร้อนทำให้ธารน้ำแข็งกว่า 13,000 แห่งในปากีสถานละลายเร็วขึ้น

การถอยร่นของธารน้ำแข็งทำให้ทั่วโลกมีการพบร่างของนักปีนเขาหรือสกีที่หายไปนานเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เช่น ปี 2024 ในเทือกเขาแอนดีส ประเทศเปรู พบศพนักปีนเขาชาวอเมริกันที่หายไป 22 ปี ในปีเดียวกัน โครงการเก็บกู้ในเอเวอเรสต์และภูเขาใกล้เคียงพบร่าง 5 ศพ หนึ่งในนั้นเหลือเพียงกระดูก ปี 2023 ที่สวิตเซอร์แลนด์พบร่างนักปีนเขาชาวเยอรมันที่หายไปตั้งแต่ปี 1986

ปี 2017 ที่มองบลองและธารน้ำแข็งในสวิตเซอร์แลนด์ยังพบร่างนักปีนเขาจากยุค 80–90 และแม้กระทั่งคู่สามีภรรยาที่หายไปตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2

เรื่องราวของนาซิรูดดินไม่เพียงเป็นบทสรุปของการรอคอยอันยาวนานของครอบครัว แต่ยังเป็นเครื่องเตือนใจให้โลกรู้ว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกำลังทำให้ประวัติศาสตร์ที่ถูกฝังในน้ำแข็งกลับมาปรากฏต่อสายตาอีกครั้ง