“หมอโบว์” ใจสลาย สุดยื้อชีวิต”คุณย่า”ภาวะหัวใจแตก หลังทำบอลลูน
ข่าวเศร้า เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา “หมอโบว์” รัชดาภรณ์ ศรีสมุทร สัตวแพทย์หญิงชื่อดัง ผู้เป็นที่รู้จักในโลกออนไลน์ จากการทำคลิปถ่ายทอดวิธีดูแลรักษาช้างป่วยจำนวนมาก ได้โพสต์เรื่องราวสุดสะเทือนใจผ่านโซเชียลส่วนตัว เล่าถึงเหตุการณ์ที่สูญเสียครั้งใหญ่ “คุณย่า” ผู้เป็นที่รักจากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ หลังทำบอลลูนหัวใจ
โดยหมอโบว์เผยว่า เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา คุณย่ามีอาการอ่อนแรง เจ็บแน่นหน้าอก แต่ยังพูดสื่อสารได้ เดินได้ปกติ โบว์เลยพาไปหาหมอที่โรงพยาบาล(รพ.เอกชน) โดยแจ้งคุณหมอว่าคุณย่าเป็นโรคหัวใจ ทานยาโรคหัวใจอยู่ตลอด คุณหมอเลยตรวจการทำงานของหัวใจ พบว่ากล้ามเนื้อหัวใจตาย คุณหมอรีบพาย่าไปฉีดยาสลายลิ่มเลือด และส่งคุณย่าไปรักษาต่ออีกรพ.นึงด่วน โดนเราไปกับรถพยาบาลฉุกเฉิน โบว์นั่งไปกับย่า ไปถึงอีกรพ.คุณหมอทำการฉีดสี และพบว่าคุณย่ามีหลอดเลือดหัวใจอุดตันถึง 3 เส้น คุณหมอเสนอให้ผ่าตัด โดยคำนวณค่าผ่าตัดอยู่ที่ 1 ล้าน
ตอนที่ย่ารู้ว่าค่าผ่าตัด 1 ล้าน ย่าบอกว่าเปลืองเงินไม่ผ่า อยากให้เก็บเงินไว้ แต่ตอนนั้นในหัวโบว์ไม่คิดอะไรเลย จ่ายเท่าไหร่ก็ได้ขอแค่ย่าหาย เลยบอกย่าว่าทำใจให้สบาย เดี๋ยวก็หายได้กลับบ้านแล้ว สักพักคุณหมอผ่าตัดก็เดินมาคุยว่า ย่ามีโอกาสเสียชีวิตสูงมากจากการผ่าตัด เพราะด้วยอายุที่เยอะ ไตทำงานได้ไม่ดี และเป็นโรคหัวใจเรื้อรังด้วย เลยคุยกับคุณหมอถึงวิธีการอื่นๆ เเละได้ข้อสรุปว่าจะให้ย่าทำบอลลูนหัวใจ ซึ่งเป็นวิธีที่คุณหมอบอกว่าปลอดภัยกว่าการผ่าตัด แต่อาจจะต้องทำหลายรอบ เพราะอุดตันหลายเส้น
เช้าวันต่อมา (15 มิ.ย.) คุณย่าเข้าทำบอลลูนหัวใจ เส้นที่ 1 โบว์นั่งรอหน้าห้องแบบทรมานมาก ลุ้นทุกวินาที จนคุณหมอเดินออกมาบอกว่า การทำบอลลูนผ่านไปได้ด้วยดี เลือดไหลไปเลี้ยงหัวใจได้ดีขึ้น คือตอนนั้นใจฟูขึ้นมาก ย่าออกจากห้องทำบอลลูนมาอยู่ห้องพักฟื้น ย่าพูดสื่อสารได้ แต่ไม่นานย่าก็บอกว่าเจ็บหน้าอก แล้วช็อคไปเลย คุณหมอและพยาบาลช่วยการทำ CPR กันอยู่นาน ตอนนั้นคือรู้สึกใจสลายไปหมด รู้สึกกลัว ร้องไห้ไม่หยุด ขอให้หมอช่วยได้สำเร็จ คิดในใจว่าย่าอาจจะแค่เหนื่อยรึป่าว สักพักคุณหมอก็เรียกเข้าไปพบแล้วบอกว่า ย่ามีภาวะ “หัวใจแตก” เนื่องจากการทำบอลลูน ทำให้เลือดไหลเข้าหัวใจดีขึ้น
แต่หัวใจของย่าเองที่รับแรงดันเลือดไม่ไหว เพราะกล้ามเนื้อหัวใจไม่แข็งแรง คุณหมอบอกว่าจะพยายามช่วยทำ CPR ต่อไปอีกสักหน่อย แต่ถ้าหัวใจแตกแล้วโอกาสเสียชีวิตเกือบ 100% ได้ยินที่หมอพูดก็รู้เลยว่า หมอแค่ให้เวลาเราทำใจอีกนิดเท่านั้น แต่จริงๆแล้วย่าไปจากเราไปแล้ว
- ไม่นานคุณหมอ 3 ท่านก็เดินมาแจ้งว่า “คุณย่าเสียชีวิตแล้ว” วินาทีนั้นใจสลายมาก โทษตัวเองว่าเราเองรึป่าวที่เลือกให้ย่าจากไป เราเองรึป่าวที่เลือกให้ย่าทำบอลลูน ทำให้ย่าจากเราไปไวขึ้น ถ้าย่าไม่ได้ทำบอลลูนย่าจะยังอยู่มั้ย คำถามในหัวมากมายเต็มไปหมด คุณหมอถามว่า มีอะไรสงสัยจะถามมั้ย โบว์ถามคุณหมอแค่คำเดียวว่า “ก่อนย่าจะไป แกจะรู้สึกเจ็บมั้ยคะ” คุณหมอบอกว่า อาจจะแค่เจ็บหน้าอกแปบนึง แล้วก็คงจะไม่รู้สึกอะไรแล้ว ย่าจากไปโดยไม่ทรมาน และหมอยังบอกโบว์ว่า วิธีที่เราเลือกรักษาย่า เป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้ว ถ้าเราไม่ทำอะไร ย่าก็อาจจะต้องทรมาน และจะเสียชีวิตในไม่ช้าเช่นกัน
เจ้าหน้าที่เข็นร่างของย่ามาไว้ที่ห้องพักฟื้น ไม่น่าเชื่อว่าเมื่อชั่วโมงที่แล้วเรายังคุยกันอยู่เลย ไม่มีโอกาสได้บอกลา ได้กอดอีกเลย เวลาเจอกันแต่ละครั้งย่าจะชอบเข้ามากอด เข้ามาหอมแก้มโบว์ตลอด แต่วันนี้ไม่มีอีกแล้ว ไม่รู้ว่าจะต้องทำใจยังไง ใช้เวลานานเท่าไหร่ถึงตอนนี้ก็ยังรู้สึกอยากร้องไห้ทุกครั้งที่นึกถึง ว่างๆก็มาหากันบ้างนะย่า คิดถึงย่าที่สุด
ต้องขอขอบคุณ คุณหมอและเจ้าหน้าที่ทุกท่าน ที่ช่วยรักษาคุณย่าอย่างเต็มที่จนวินาทีสุดท้าย ขอบคุณมากๆจริงๆค่ะ
ขอบคุณ หมอโบว์